เมนู

จิตนี้ ชื่อว่า มหาคช* (ช้างใหญ่) ขึ้นชื่อว่า สิ่งที่ไม่เป็นอารมณ์
ของจิตนี้มิได้มี เมื่อคำถามว่า จิตที่มิใช่สัพพัญญุตญาณ แต่ชื่อว่ามีคติอย่าง
สัพพัญญุตญาณเป็นจิตดวงไหน ? พึงตอบว่า จิตดวงนี้ (มโนวิญญาณธาตุ
เป็นกิริยาจิตสหรคตด้วยอุเบกขา) คำที่เหลือในจิตนี้ พึงทราบโดยนัยที่กล่าวไว้
ในจิตดวงก่อน (มโนวิญญาณธาตุเป็นกิริยาจิตสหรคตด้วยโสมนัส) นั่นแหละ
ก็ในหสนจิต (มโนวิญญาณธาตุเป็นกิริยาจิตสหรคตด้วยโสมนัส) นั้น ทรง
จำแนกสังขารขันธ์มีองค์ 9 เพราะมีปีติ แต่ในจิตดวงนี้ ทรงจำแนกสังขารขันธ์
มีองค์ 8 เพราะไม่มีปีติ.

ว่าด้วยมหากิริยาจิต 8 ดวง


บัดนี้ มหากิริยาจิต 8 ดวง นั่นแหละของกุศลเหล่าใด กิริยาจิต
เหล่านั้นเกิดขึ้นแล้ว เพราะความเกิดขึ้นแห่งพระขีณาสพ เพราะฉะนั้น มหา-
กิริยาจิตเหล่านั้น พึงทราบโดยนัยตามที่กล่าวในกุศลนิทเทสนั่นแหละ

ว่าด้วยหสนจิต 13 ดวง


บัณฑิต พึงยังหสนจิตให้ตั้งประชุมลงในที่นี้.
ถามว่า ก็หสนจิตเหล่านี้ มีเท่าไร ?
ตอบว่า มี 13 ดวง.
จริงอยู่ ปุถุชน ย่อมหัวเราะด้วยจิต 8 ดวง คือ
กุศลจิตสหรคตด้วยโสมนัส 4 ดวง
อกุศลสหรคตด้วยโสมนัส 4 ดวง
พระเสกขะ ย่อมหัวเราะด้วยจิต 6 ดวง คือ
กุศลจิตที่สหรคตด้วยโสมนัส 4 ดวง
อกุศลจิตที่สหรคตด้วยโสมนัสไม่ประกอบด้วยทิฏฐิ 2 ดวง
* ฉบับนี้ว่า มหาราช นาเมตํ จิตฺตํ แต่ของพม่าเป็น มหาคช นาเมตํ จิตฺตํ แปลตามฉบับไทย
จิตนี้ชื่อว่า มหาราช ฉบับพม่าแปลว่า จิตนี้ ชื่อว่า ช้างใหญ่

พระขีณาสพ ย่อมหัวเราะด้วยจิต 5 ดวง คือ
หสิตุปบาทจิตสหรคตด้วยโสมนัส 1 ดวง
มหากิริยาจิตที่สหรคตด้วยโสมนัส 4 ดวง

รูปาวจรกิริยา


[494] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
พระขีณาสพเจริญรูปาวจรฌาน เป็นกิริยา ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล
และไม่ใช่กรรมวิบาก แต่เป็นทิฏฐิธรรมสุขวิหาร สงัดจากกาม สงัดจากอกุศล
ธรรมทั้งหลายแล้ว บรรลุปฐมฌานที่มีปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ อยู่ในสมัยใด
ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีในสมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
[495] ธรรมเป็นอัพยากฤต เป็นไฉน ?
พระขีณาสพเจริญรูปาวจรฌาน เป็นกิริยา ไม่ใช่กุศล ไม่ใช่อกุศล
และไม่ใช่กรรมวิบาก แต่เป็นทิฏฐธรรมสุขวิหาร บรรลุทุติยฌาน ฯลฯ บรรลุ
ตติยฌาน ฯลฯ บรรลุจตุตถฌาน ฯลฯ บรรลุปฐมฌาน ฯลฯ บรรลุปัญจมฌาน
ที่มีปฐวีกสิณเป็นอารมณ์ ฯลฯ อยู่ในสมัยใด ผัสสะ ฯลฯ อวิกเขปะ มีใน
สมัยนั้น ฯลฯ
สภาวธรรมเหล่านี้ชื่อว่า ธรรมเป็นอัพยากฤต ฯลฯ
รูปาวจรกิริยา จบ